ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพฤหัสบดี (DJIA -0.0%, S&P500 -0.04%, Nasdaq +0.28%) โดยตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบหลังนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น หลังสภาล่างของสหรัฐฯ สามารถผ่านร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มงบประมาณฉบับใหญ่
โดยดัชนีได้รับแรงฉุดหลักจากหุ้นกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ อาทิ Sunrun (-37.1%) ที่ปรับตัวลดลงแรงหลังการผ่านกฏหมายอาจนำมาสู่การยกเลิกหรือปรับลดมาตรการสนับสนุนพลังงานทดแทน ขณะที่หุ้น Magnificent 7 ปรับตัวขึ้นหนุนตลาด
โดยเกือบทั้งหมดสามารถปิดบวกได้ มีเพียงหุ้น Apple (-0.36%) ที่ปรับตัวลดลงในวันที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มงบประมาณฉบับใหญ่ตามวาระของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยคะแนนเฉียดฉิว 215 ต่อ 214 เสียง ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มหนี้สาธารณะของประเทศอีก $3.8 ล้านล้านในทศวรรษหน้า โดยเนื้อหาในร่างกฎหมายนี้ครอบคลุมการขยายการลดภาษีจากปี 2017, ยกเลิกสิทธิประโยชน์พลังงานสะอาดจากยุคไบเดน, เพิ่มงบเสริมทัพ-ตม. เพื่อรองรับการเนรเทศ 1 ล้านคนต่อปี และตั้งบัญชีออมเงินปลอดภาษีสำหรับเด็กในชื่อ “Trump Accounts” ขณะที่การผ่านร่างกฎหมายนี้ยังมาพร้อมกับการปรับเพดานหนี้เพิ่มอีก $4 ล้านล้าน เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตผิดนัดชำระหนี้ในช่วงฤดูร้อนนี้
โดยคาดว่าร่างกฎหมายจะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาต่อไปท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้แก้ไขเนื้อหาเพิ่มเติมจากหลายฝ่าย หุ้นกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯ ร่วงแรงหลังสภาผู้แทนฯ ผ่านร่างงบประมาณภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ที่อาจล้มเลิกนโยบายสนับสนุนพลังงานสะอาดยุคไบเดน โดยหุ้น Sunrun (RUN US) ร่วงกว่า -37% นำการปรับตัวลงของกลุ่มพลังงานสะอาด หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณและภาษี “One Big Beautiful Bill” ที่เสนอโดย ประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งรวมถึงการยกเลิกหรือปรับลดมาตรการภาษีและเงินสนับสนุนภายใต้กฎหมาย Inflation Reduction Act (IRA) ที่เคยส่งเสริมพลังงานทดแทนอย่างเข้มข้นในยุคไบเดน โดยเฉพาะสิทธิ์เครดิตภาษี 30% สำหรับผู้ติดตั้งระบบโซลาร์ภายในบ้านด้านหุ้นพลังงานแสงอาทิตย์อื่น ๆ เช่น Enphase (ENPH), Maxeon (MAXN) และ SolarEdge (SEDG) ก็ปรับลดลงตามกันอย่างรุนแรง ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Raymond James ชี้ว่าร่างกฎหมายนี้ไม่เพียงยกเลิกสิทธิประโยชน์แต่ยังเร่งการสิ้นสุดสิทธิ์เร็วกว่ากำหนดเดิม
ทั้งนี้แม้ร่างฯ ยังต้องผ่านวุฒิสภา แต่ตลาดได้สะท้อนความกังวลเชิงนโยบายต่อแนวโน้มการลงทุนในพลังงานสะอาดอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมีมุมมองระมัดระวังโดยรวมต่อหุ้นกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯ จากความไม่แน่นอนทางนโยบายที่เพิ่มขึ้นหลังร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill ผ่านสภาผู้แทนฯ ซึ่งอาจกระทบสิทธิประโยชน์ภาษีที่เป็นแกนหลักของการเติบโตในภาคโซลาร์ โดยเฉพาะการติดตั้งสำหรับครัวเรือนและโครงการเชิงพาณิชย์ผ่านโครงสร้างภาษี 25D และ 48E ที่กำลังถูกปรับลดหรือจำกัดกรอบเวลาการใช้สิทธิ์ ทำให้โมเดลรายได้ของบริษัทอย่าง Sunrun, Enphase, และ SolarEdge เผชิญความเสี่ยงต่อเนื่อง ขณะที่บรรยากาศของกลุ่มยังเผชิญแรงกดดันจากแรงขายและการลดน้ำหนักลงทุนจากนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่า First Solar (FSLR) มีความได้เปรียบเชิงโครงสร้างในกลุ่มจาก
1) การไม่พึ่งพารายได้จากภาค TPO
2) การได้รับสิทธิ์เครดิตภาษี 45X ที่สนับสนุนการผลิตในประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากร่างกฎหมายล่าสุด
3) การสนับสนุนจากนักวิเคราะห์ระดับ Tier-1
โดย Goldman Sachs ปรับเป้า FSLR ขึ้นเป็น $255 มองว่าสิทธิประโยชน์จาก IRA ยังรักษา margin ได้ดี ขณะที่ UBS และ Wolfe Research ยังคงแนะนำ ‘Buy’ และ ‘Outperform’ โดยให้เหตุผลเรื่องความได้เปรียบทางนโยบายและการผลิตในสหรัฐฯ แม้ยังเตือนความเสี่ยงจากต้นทุนรับประกันสินค้าและการแข่งขันที่สูงขึ้นในอนาคต