แนวโน้มตลาดวันนี้…
ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัมพูชา ซึ่งเรามองว่าอาจยังคงกดดันภาพรวมการลงทุน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากปัญหานี้ จะไม่มากนัก และจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยประมาณ 1.6 พันล้านบาทเมื่อวานนี้
สะท้อนว่านักลงทุนต่างชาติยังคงคาดหวังการประกาศอัตราภาษีของสหรัฐฯ ในระยะสั้น พวกเขายังคงเน้นการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของทั้งหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศผ่าน DR ขณะที่ดัชนี SET เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,205 – 1,220 จุด
Investment Theme
ต่างชาติยังซื้อหุ้นไทย แม้มีปัจจัยลบเฉพาะตัว วานนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 แม้มีประเด็นความขัดแย้งในเขตชายแดนกัมพู ชา แต่เราคาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงคาดหวังต่อนโยบายภาษีที่สหรัฐฯ ประกาศต่อไทย ซึ่งมีคาดการณ์ว่าจะได้ใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาคในระดับ 18-20% นอกจากนี้เรามองว่าระดับเงินปันผลคาดการณ์สำหรับผลประกอบการรอบครึ่งปีของไทยก็ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. เราจึงคาดเป็นอีกปัจจัยหนุนการไหลเข้าของ Fund Flow ทั้งนี้แม้ตลาดยังมองบวกและเก็งกำไรต่อการประกาศภาษี แต่เราแนะนำ ระมัดระวังกลุ่มที่อาจจะได้รับผลกระทบเช่นฟาร์มสัตว์บกที่อาจเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น หากไทยยอมรับเงื่อนไขทางภาษีและหนุนให้การน าเข้าเนื้อสัตว์จากสหรัฐฯ ทำได้ง่ายขึ้น
Nikkei จ่อ ATH หลังดีลสหรัฐฯ จบที่ 15%
โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอีก 1.59% วานนี้ ใกล้เคียงกับระดับ All Time High ที่ 42,223.95 จุด ในเชิงกลยุทธ์เราแนะนำขายทำกำไรในระยะสั้นหลังจากดัชนีตอบรับประเด็นดังกล่าวไป ค่อนข้างมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ตลาดหุ้นอินเดียเป็นอีกหนึ่งตลาดที่อาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้นหลังจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า จึงอาจส่งผลให้ Fund Flow สลับไปเก็งกำไรตลาดอื่นในระยะสั้น
น้ำมันมีโอกาสรีบาวด์
โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากสงครามการค้าทั่วโลกที่ผ่อนคลายมากขึ้น ประกอบกับตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ได้แก่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ 217,000 ต าแหน่งต่ำกว่าคาดที่ 227,000 ต าแหน่ง ประเด็นดังกล่าวยังหนุนให้ Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ และ Dollar Index ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ปัจจัยสาคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้านอกเหนือจากผลประกอบการ คือการประชุมเฟดที่ตลาด ยังคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับ 4.50% รวมถึง Core PCE ของสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดจะทรงตัวในระดับ 2.7% YoY



*** Yuanta Research


