แนวโน้มตลาดวันนี้
คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways แต่มีกล่มให้เลือกเก็งกําไร ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index วันนี้ที่บริเวณ 1,210-1,225 จุด โดยรวมตลาดยังรอติดตามหลายปัจจัยมหภาคทั้งความคืบหน้าการ เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ, ความขัดแย้งชายแดนไทย-มพูชา และการรายงานผลประกอบการ
คาดกล่มที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นเด่นกว่าตลาดคือ (1)พลังงานต้นนํ้าและโรงกลั่นจากความคืบหน้าเจรจาระหว่าง US-EU (2) กลุ่มที่มีรายได้จากกับพู ชาในกรณีที่สองประเทศตกลงหยุดยิง และ (3) กลุมหุ้นที่คาดผล
ประกอบการ 2025 เด่น
Investmentfheme
“Trade Deal’ คืบหน้าจากหลายประเทศ ยุโรปปิดดีลการค้าสหรัฐฯ ที่ 15%…จีนจ่อคุยยืดเวลาการเจรจา ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อได้เปิดเผยว่าสหรัฐฯ และ EU บรรลุข้อตกลงเจรจาทางการค้าโดยสหรัฐฯ จะเก็บภาษีนําเข้าสินค้าจากยุโรปในอัตรา 15% ในเกือบทุกประเภทสินค้ารวมถึง ยานยนต์ ยา และ Semiconductor ขณะที่ยังคงอัตราภาษีแร่เหล็กและอลูมิเนียมไว้ที่ 50% ทางด้าน EU ตกลงที่จะซื้อผลิตภัณฑ์พลังงานจากอเมริการวม ‘5 แสนล้านดอลลาร์ และ ลงทุน 6.0 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ รวมถึงข้อผูกพ้น อื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง แม้ตลาดหุ้นยุโรปจะปรับตัวจากความกังวลต่อผลกระทบเชิงเศรษฐกิจของ ภูมิภาค แต่พัฒนาการเจรจาได้หนนการฟื้นตัวของราคาสินค้าพลังงานและทําให้ Dollar Index ปรับตัวขึ้นอย่างมี นัยสําคัญ
ในลําดับถัดไปแนะนําติดตามการเจรจาต่อรองทางการค้า ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ตลาดคาดจะขยายระยะเวลา
‘Deadline’ จากเดิมที่จะครบกําหนดในวันที่ 12 ส.ค. หาก เกิดขึ้นหรือมีพัฒนาการเจรจาที่ดีกว่าคาด จะเป็นโอกาสเข้าเก็งกําไรทั้ง DR ที่เชื่อมโยงกับหุ้นจีน และหุ้นในกลุ่ม ‘China Play’ ใน SET Index
ไทย-กัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังต้องรอ ติดตามอย่างใกล้ชิด วานนี้รักษาการนายกฯ ไทยและ
นายกฯ กัมพชาได้บรรลุข้อตกลงเจรจาหยุดยิงเริ่มต้น เที่ยงคืนที่ผ่านมา แนะนําติดตามผลการประชมกองกําลัง
ทั้งสองฝ่ายซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วง 7.00น. วันนี้ ขณะที่ เหตุการณ์สําคัญในลําดับถัดไปคือการจัดประชุม
คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) โดยมีกัมพูชาเป็น เจ้าภาพ หากเหตการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพชา ผ่อนคลายลง จะเป็นบวกโดยตรงต่อห้นกล่มที่มีรายได้ใน กัมพชาเช่น CBG, OSP, SAV, OR และกลุ่ม Freight
Forwarder ที่ดําเนินธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน อย่างไรก็ ตาม หากเหตุการณ์กลับมารุนแรงนอกเหนือจากหุ้นกลุ่ม
ข้างต้นจะได้รับ Sentiment เชิงลบ เราคาดกลุ่มหุ้นที่มี ความอ่อนไหวต่อสงครามการค้า เช่น นิคมฯ, ส่งออก
ยางพารา และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มีความเสียงในการที จะเผชิญกับแรงกดดันหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงเจตจํานงว่าการเจรจาจะเดินหน้าได้ต่อเมื่อทั้งสองประเทศตกลงหยุดยิง





