แนวโน้มตลาดวันนี้ ผ่านวันหยดยาวไม่มีข่าวลบให้น่ากังวล ประเมิน SET Index วันนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways-up ในกรอบ 1,255-1,270 จุด คาดกลุ่มหุ้นเด่นในการถือครองระยะกลาง-ยาวยังเป็นกลุ่ม “Yield Play’ โดยเฉพาะหลังการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ สําหรับเดือน ก.ค. ออกมาตํากว่าคาด หนุนการเก็งกําไรการปรับทิศทางการดําเนินนโยบายการเงินของ Fed เป็นผ่อนคลายในช่วงที่เหลือของปี
คาดตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของสับลาห์จะถูกขับเคลื่อนด้วยการรายงานผลประกอเการ แนะนําจับตาหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดจะรายงวนกําไรเติบโตเด่น
Investment Theme
โค้งสดท้ายเก็งกําไรผลประกอบการ 2025 ทรัมป์ขยายระยะเวลาเจรจาการค้ากับจีนอีก 90 วัน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์สื่อรายงานว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามคําสั่งฝ่ายบริหารยืดระยะเวลาการเจรจากับจีนก่อนถึงกําหนดในวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยอัตราภาษีนําเข้าระหว่างทั้งสองประเทศจะคงอย่ที่ระดับเดิมคือ สหรัฐฯ เก็บภาษีนําเข้าสินค้าจีนในอัตรา 30% และจีนเก็บภาษีนําเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในอัตรา 10% ไปอีก 90 วัน ก่อนจะถึงวันครบกําหนดการเจรจารอบใหม่ในวันที่ 10 พ.ย. เราประเมินปัจจัยดังกล่าวจะช่วยลดความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเข้าเก็งกําไร DR ที่เชื่อมโยงกับสงครามการค้า อาทิ 1) DR สหรัฐฯ คือ QQQM19, NVDA19, JPMUS19 และ COSTCO19 และ 2) DR จีน-ฮ่องกง เช่น CNO1, HKTECH13, MEITUAN19, TENCENT19 และ XIAOMI19 เป็นต้น
ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เสริมแรงเก็งกําไร Fed เริ่มลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. คืนวานนี้สหรัฐฯ ได้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือน ก.ค. 2025 ปรับตัวเพิ่มขึ้น2.7% YoY ตํากว่าคาดที่ 2.8% YoY และถึงแม้เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.1% YoY สูงกว่า คาดที่ 3.0% YoY แต่สาเหตุหลักเป็นผลจากหมวดบริการขณะที่ราคาสินค้าส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวกจากการรายงานเงินเฟ้อ อิงคาดการณ์จาก Fed Fund Futures ล่าสุดตลาดให้น้ํ้าหนักว่า Fed จะกลับมาปรับลดดอกเบียในการประชุม FOMC เดือน ก.ย. ถึง 92% เชิงกลยุทธ์เรายังคงแนะนําทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม ‘Yield Play’ เช่น ไฟแนนซ์, โรงไฟฟ้า, REIT และ สื่อสาร
ใกล้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของ Earnings Season เราประเมินการรายงานผลประกอบการ 2Q25 จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนและกําหนดทิศทางของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นที่โดดเด่นของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50 และ SET100 นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค. ทําให้เราชื่นชอบการเก็งกําไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กในดัชนี SSET ที่ยัง Laggard คาดให้ Risk-reward ratio ที่คุ้มค่ามากกว่า โดยหุ้นรายตัวที่คาดจะรายงานผลประกอบการโดดเด่นได้แก่ BAM, BPP, BTG,OSP, SYNEX, TMAN, SECURE, LTS และ XPG เป็นต้น
Source : บทวิเคราะห์ Yuanta Research
