แนวโน้มตลาดวันนี้ :: ประเมินการอ่อนค่าของ US Bond Yield และ Dollar จะช่วยหนุนการเคลื่อนไหวของ SET Index คาดตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways-up ในกรอบ 1,275-1,285 จุด หลังการรายงานดัชนี PPI สหรัฐฯ ที่ตําคาดส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลง
แบ่งการลงทุนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์เป็น 2 ธีมหลัก ได้แก่ (1) ‘Yield Play’ โดยเฉพาะกลุ่มที่คาดระใด้แรง หนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และ (2) กล่มหุ้นที่มักเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในสภาวะเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
Investment Theme :: PPI ต่าวคาด..เอื้อตลาดเก็ง Fed ลดดอกเบี้ย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทํา ‘New High of All Time’ ดัชนี S&P500 วานนี้ปรับตัวขึ้นทําจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หนุนจากสองปัจจัยสําคัญ ได้แก่
(1) การปรับตัวขึ้นของห้นเทคฯ ขนาดใหญ่คือ Oracle corp. (+36.0%) หลังการรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดมากหนุนจากอุปสงค์ของธุรกิจ Al ขณะที่บริษัทเผยมุมมองว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ห้นเทคฯ อื่น เช่น NVIDIA (+3.9%) ปรับตัวขึ้นเด่นเช่นกับ
(2) การรายงานดัชนีเงินเฟ้อผู้ผลิต (PPI) สําหรับเดือน ส.ค. อยู่ที่ -0.1% MoM และ +2.6% YoY ตํ่ากว่าคาดที่ +0.3% MoM และ +3.3% YoY อย่างมีนัยสําคัญ สะท้อนว่าผลกระทบของภาษีนําเข้าต่อเงินเฟ้ออาจไม่รุนแรงเท่าที่ตลาดประเมิน
‘Yield Play’ ยังเป็นธีมการลงทุนหลักในเดือนนี้ การรายงานดัชนี PPI ส่งผลให้ตลาดปรับเพิ่มคาดการณ์ความน่าจะเป็นว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีจากราว 55% ในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 73% วานนี้ ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับตัวลงเป็น 4.05% เราประเมินปัจจัยดังกล่าวจะเป็น Sentiment เชิงบวกให้กับหุ้นในกลุ่ม’Yield Play ‘ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คือ การเงิน, อสังหาริมทรัพย์ และสื่อสาร
เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี สถิติชี้หุ้นบางกลุ่ม Perform ดีกว่าตลาด ความคาดหวังการปรับลดดอกเบี่ยของ Fed และสภาวะภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าอย่างมีนัยสําคัญล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB อยู่ที่ 31.75 บาทต่อดอลลาร์ นับเป็นการแข็งค่าของเงินบาทมากที่สดในรอบ กว่า 4 ปี อ้างอิงข้อมูลเชิงสถิติกลุ่มหุ้นที่มักเคลื่อนไหวได้ดีในสภาวะเงินบาทแข็งค่าได้แก่ โรงไฟฟ้า,ค้าปลีก,สื่อสาร,การเงิน และ REITs & IFFs
สําหรับกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ ท่องเที่ยว, การแพทย์, และ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์


Source : บทวิเคราะห์ Yuanta Research


