Walth Designs Daily : ประจำวัน 19 /09/2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ :: ถึงเวลาตลาดหุ้นไทย ‘Rebound’ หลังตลาดตีความการประชุม FOMC ประเมิน SET Index มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นในกรอบ 1,295-1,310 จุด คาดได้รับ Sentiment เชิงบวกจากการประชุม FOMC ที่สะท้อนแนวทางการดําเนินนโยบายของ Fed ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายหนุน 4 ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทําจุดสุงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

เรายังคงคําแนะนําเพิ่มนําหนักการลงทุน ‘Domestic Play’ เพื่อเก็งกําไรการประกาศนโยบายขาลงรัฐบาลคาดเกิดขึ้นภายในช่วงปลายเดือน ทั้งนี้คาด SET Index วันนี้อาจเผชิญกับความผันผวนช่วงท้ายตลาดจากการปรับลดนําหนักของดัชนี FTSE

Investment Theme :: คาดหุ้น ‘Value’ จะกลับมามีสีสันอีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทํา ‘New High’ ทั้ง 4 ดัชนีดัชนีหุ้น DJIA (+0.3%), S&P500(+0.5%), NASDAQ (+0.9%) และ Russell 2000 (+2.5%) ปรับตัวขึ้นทําจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หลังตลาดได้ประเมินว่าการประชุม FOMC จะนําไปสู่การดําเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ท่ามกลางบรรยากาศเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการเกิด Recession ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้ากลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเด่นที่สุดคือหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบียและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ขณะที่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีได้แรงหนุนจากการที่Nvidia Corp. (+3.5%) ประกาศเข้าลงทุนในบริษัท Intel Corp. (+23%) ด้วยเม็ดเงินจํานวน 5.0 พันล้านดอลลาร์นํามันดิบปรับตัวลดลงหลัง ‘ทรัมป์’ ประกาศว่าราคานํามันที่ตําจะช่วยยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ราคานํามันดิบวานนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย WTI(-0.8%)ในช่วงการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเห็นสนับสนุนการกดดันราคาที่ต่ำมากกว่าการควําบาตรอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อกดดันรัสเซียให้ยุติสงครามในยูเครน อย่างไรก็ตาม เราประเมินปัจจัยดังกล่าวจะถูกหักล้างด้วยความคาดหวังว่าการดําเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลกจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์การบริโภคของเศรษฐกิจโลกในปี 2026 นอกจากนี้ การประกาศจ่ายเงินปันผลของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานคือ PTT ที่มากกว่าคาด จะเป็นปัจจัยช่วยจํากัด Downside risk ของกลุ่มในวันนี้เช่นกัน

คาด ‘Value’ จะกลับมา Outperform ‘Growth’ ในระยะ ถัดไป การปรับตัวขึ้นของดัชนี Russell 2000 ที่โดดเด่นวานนี้คาดเป็นการสะท้อนกระแสเงินทุนที่ไหลเวียนเข้าสู่หุ้นในกลุ่ม ‘Real Sector ที่มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจและการบริโภค ซึ่งจะเป็น Sentiment เชิงบวกให้กับดัชนีหุ้นของประเทศที่มีสัดส่วนของหุ้นเน้นคุณค่ามากกว่าหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นที่เน้นการเติบโตสูง แนะนําเข้าเพิ่มนําหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่ม ‘Domestic Play’ คือ ค้าปลีก, ธนาคารพาณิชย์, การเงิน, F&B, อสังหาฯ และ ท่องเที่ยว ทั้งนี้ เราประเมินดัชนีหุ้นไทยอาจเผชิญกับความผันผวนช่วงท้ายตลาดจากการปรับนําหนักดัชนี FTSE คาดเบื้องต้นเป็นการลดนําหนักราว 80 ล้านดอลลาร์

Source : บทวิเคราะห์ Yuanta Research

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *